บันทึกประวัติศาสตร์ของคริสเตียน
เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom
การอ่านบันทึกประวัติศาสตร์ของคริสเตียน ทำให้ได้ข้อคิดเรื่องการนมัสการของคริสเตียนยุคแรกในวันอาทิตย์ (เป็นหลักฐานหนึ่งที่ช่วยเราได้) ว่าไม่ได้เกี่ยวกับพวกนอกรีต (pagan) แต่อย่างใด
ผมขอยกข้อเขียนของ Justin Martyr ที่ปรากฏในปี 140 คือ ประมาณ 40 ปีหลังอัครทูตยอห์นสิ้นชีวิต โดย Justin Martyr ผู้นี้เป็นชาวกรีก เกิดในปี 100 และถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อในปี 165 ท่านผู้นี้อยู่คริสตจักรเดียวกับที่ท่านยอห์นเคยอยู่ คือคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส เป็นอะไรที่มาก่อนสภาไนเซียถึง 200 ปี
ท่านผู้นี้ได้เขียนหนังสือ (เป็นจดหมาย) ไว้ตอนหนึ่ง (The First Apology of Justin) ซึ่งเป็นตอนที่คริสเตียนถูกข่มเหงอย่างหนัก ท่านเขียนถึงจักรพรรดิ Antoninus เล่าความเป็นไปเกี่ยวกับคริสเตียน ดังนี้ว่า:
""And on the day called Sunday และในวันที่เรียกว่าวันอาทิตย์, all who live in cities or in the country ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆหรือในภูมิภาคท้องถิ่นหนึ่ง gather together to one place พากันมาชุมนุมอยู่ด้วยกันในสถานที่หนึ่ง, and the memoirs of the apostles or the writings of the prophets are read และบรรดาบันทึกของเหล่าอัครทูตหรือข้อเขียนของบรรดาผู้เผยพระวจนะก็ได้รับการอ่านให้ฟัง, as long as time permits เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย; then, when the reader has ceased จากนั้นเมื่อการอ่านเสร็จสิ้นลง, the president verbally instructs and exhorts to the imitation of these good things ประธานที่เป็นหัวหน้าก็จะเอ่ยปากสอนและตักเตือนให้ผู้ฟังเลียนแบบทำตัวตามสิ่งดีๆที่สอนมานั้น. Then we all rise together and pray จากนั้นเราทุกคนก็จะลุกขึ้นพร้อมกันและอธิษฐาน, and, as we before said และเช่นเดียวกับที่เราได้กล่าวมาแล้ว, when our prayer is ended เมื่อการอธิษฐานของเราสิ้นสุดลง, bread and wine and water are brought ก็จะมีการนำขนมปัง และเหล้าองุ่น และน้ำ, and the president in like manner offers prayers and thanksgivings และผู้นำระดับหัวหน้าเช่นเดียวกันก็จะให้คำอธิษฐานและขอบพระคุณพระเจ้า, according to his ability ตามความสามารถของเขา, and the people assent, saying, Amen และผู้คนก็จะเห็นด้วยและกล่าวคำว่า เอเมน; and there is a distribution to each และจะมีการแจกจ่ายขนมปัง เหล้าองุ่นและน้ำให้แต่ละคน, and a participation of that over which thanks have been given และร่วมกันกินด้วยใจขอบพระคุณ, and to those who are absent a portion is sent by the deacons และสำหรับผู้ที่ไม่ได้มาร่วมด้วย ก็จะมีการปันส่วนเอาไว้และมัคคนายกก็จะเป็นผู้ที่นำไปแจกจ่ายให้กับคนที่ไม่ได้มาร่วม. And they who are well to do, and willing, give what each thinks fit และผู้ใดที่มีอันจะกินคือมีเงินมีทองหรือมีพอจะให้ได้และเต็มใจจะให้ ก็ให้ตามแต่ที่คิดหมายไว้ในใจว่าเหมาะสม; and what is collected is deposited with the president และเงินหรือปัจจัยที่ให้ไว้นั้นก็จะเก็บไว้กับประธาน, who succors the orphans and widows ผู้ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือลูกกำพร้าและแม่ม่ายทั้งหลาย, and those who และคนเหล่านั้น, through sickness or any other cause ที่เจ็บป่วยหรือด้วยมีเหตุอันใด, are in want ที่มีความจำเป็น, and those who are in bonds และผู้ที่ถูกจองจำพันธนาการ, and the strangers sojourning among us และคนพลัดถิ่นหรือคนต่างด้าวที่มาอยู่ระหว่างพวกเรา, and, in a word, takes care of all who are in need และจะสรุปสั้นๆ คือ ช่วยเหลือคนยากไร้และผู้ที่มีความจำเป็นทั้งมวล. But Sunday is the day on which we all hold our common assembly แต่วันอาทิตย์เป็นวันที่พวกเรามาร่วมชุมนุมประชุมร่วมกัน, because it is the first day on which God ทั้งนี้เพราะเป็นวันแรกที่พระเจ้า, .........and Jesus Christ, our Saviour, on the same day rose from the dead และพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ในวันเดียวกันนี้ได้กลับเป็นขึ้นจากตาย. For He was crucified on the day before that of Saturn (Saturday) เพราะพระองค์ถูกตรึงในวันก่อนวันเสาร์ (วันศุกร์); and on the day after that of Saturn, which is the day of the sun และในวันหลังจากวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันแห่งดวงอาทิตย์, having appeared to His apostles and disciples ทรงปรากฏกายให้เหล่าอัครทูตและสาวกของพระองค์ได้เห็น, He taught them these things พระคริสต์ทรงสอนสิ่งเหล่านี้กับพวกเขา, which we have submitted to you also for your consideration ซึ่งเราได้นำมากล่าวให้ท่านได้รับทราบเพื่อการพิจารณา""
สิ่งที่ได้รับจากการอ่านข้อเขียนข้างต้น:
1. คริสเตียนทั้งหมดในเมืองต่างๆ มาชุมนุมกันวันอาทิตย์ ไม่มีการกล่าวถึงวันสะบาโต
2. มีการอ่านพระวจนะ (บันทึกของอัครทูตและผู้เผยพระวจนะ เพราะยังไม่มีพระคัมภีร์ใหม่รวมเล่มในเวลานั้น) มีการสั่งสอนและตักเตือนให้ทำตามพระวจนะ
3.มีการอธิษฐานร่วมกันและด้วยกัน
4. มีการกินขนมปัง เหล้าองุ่นหรือน้ำองุ่น และ น้ำ (คือ กินอาหารร่วมกัน) มีการขอบพระคุณพระเจ้า คนไม่มาก็มีส่วนแบ่ง มัคนายกจะนำไปให้กินดื่มทีหลัง
5. มีการให้หรือการถวาย ไม่ได้กล่าวถึงสิบลดแต่อย่างใด มีแต่กล่าวว่าใครมีอันจะให้ได้ก็ให้ และ ให้ด้วยหมายไว้ในใจตามความปรารถณา คือ ไม่มีการบังคับ กล่าวอีกนัย คนไม่มีก็ไม่ต้องให้
6. ปัจจัยหรือเงินที่ได้มานั้นให้ฝากเก็บไว้กับประธาน (president) เพื่อผู้นำจะจัดสรรและนำไปช่วยผู้ที่มีความจำเป็นทั้งมวล อาทิเช่น คนที่เดือดร้อนต้องการปัจจัย บรรดาลูกกำพร้า แม่ม่าย คนทีถูกจองจำติดคุก คนป่วยไข้ และบรรดาคนต่างถิ่นทั้งหลาย
7. ยืนยันว่าพระคริสต์ถูกตรึงในวันศุกร์ และเป็นขึ้นจากตายในวันอาทิตย์
8. หลักฐานข้อเขียนนี้เป็นช่วงที่เพิ่งสิ้นยุคอัครทูตใหม่ๆ เขียนโดยผู้เชื่อในตอนนั้น คือ ปี 140 ไม่ได้ไม่เสียหรือเกี่ยวกับสันตะปาปาในกรุงโรมหรือสภาใดๆที่มีภายหลังจากนั้นอีกถึง 200 ปีหรือมากกว่านั้น คนละยุคเลยทีเดียว และคริสตจักรยุคแรกก็เต็มไปด้วยผู้เชื่อที่เป็นยิวและคนต่างชาติ เช่น กรีก และจากจดหมายฉบับนี้ก็มีการเน้นว่าในทุกเมือง ทำเหมือนกันหมด