ศิษยาภิบาลในคริสตจักรท้องถิ่น

"ในคริสตจักรท้องถิ่น มีศิษยาภิบาลคนเดี่ยวก็ได้ มีหลายคนก็ได้ และมีหัวหน้าของทีมศิษยาภิบาลด้วย เป็นไปตามพระคัมภีร์"

เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom

บทนำ.......

1. ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับการดูแลจัดการคริสตจักรท้องถิ่นในแต่ละแห่ง มีการกล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งอยู่ 2 อย่าง อันได้แก่ "ผู้ปกครองดูแล" (ผู้ปกครอง ศิษยาภิบาล ผู้เลี้ยง ครูผู้สอน นักเทศน์) และ "เหล่ามัคนายก"


2. หลายคนไม่เชื่อว่า การมีศิษยาภิบาลเพียงคนเดียวที่ดูแลปกครองคริสตจักรท้องถิ่น จะมีในคริสตจักรในยุคแรก และ โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่เราพบเห็นการมีศิษยาภิบาลเพียงคนเดียวหรือมีการแต่งตั้งศิษยาภิบาลอาวุโส (senior pastor) ที่เป็นประทานหรือผู้นำในคริสตจักรจะเป็นสิ่งที่เป็นไปตามพระคัมภีร์ หลายคนเข้าใจว่าศิษยาภิบาลหรือผู้ปกครองหรือผู้ดูแลคริสตจักรนั้นต้องประกอบด้วยศิษยาภิบาลหลายๆท่านเสมอไป ไม่มีใครที่อยู่ตำแหน่งสูงกว่ากันหรือเป็นหัวหน้า หรือบางท่านเชื่อว่าพี่น้องคริสเตียนไม่ควรมีตำแหน่งแบบนี้ เพราะทุกคนเท่าเทียมกัน เป็นปุโรหิตหลวงด้วยกันทุกคน

3. แต่ความจริงแล้ว จากการพิจารณาพระคัมภีร์ในหลายๆตอน กลับชี้ชัดว่า มีคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งการปกครองคริสตจักรโดยศิษยาภิบาล และ มีเหล่ามัคนายกเป็นผู้ช่วย ศิษยาภิบาลอาจเป็นท่านเดียวหรือกลุ่มของศิษยาภิบาล และเมื่อมีหลายๆท่าน ก็มีหัวหน้าด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคแรกสุดของคริสตจักรแล้ว และเป็นไปตามพระคัมภีร์


คำอธิบาย........

1. ให้สังเกตการใช้คำในพระธรรม 1 ทิโมธี 3 ในภาษาเดิม โดยแปลเป็น ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทยก็จะมองออก ดังนี้
“An overseer (ผู้ปกครองดูแล), therefore, must be above reproach, the husband of one wife, self-controlled, sensible, respectable, hospitable, an able teacher, 3 not addicted to wine, not a bully but gentle, not quarrelsome, not greedy—4 one who manages his own household competently, having his children under control with all dignity. 5 (If anyone does not know how to manage his own household, how will he take care of God’s church?) 6 He (เขา) must not be a new convert, or he might become conceited and fall into the condemnation of the Devil. 7 Furthermore, he (เขา) must have a good reputation among outsiders, so that he does not fall into disgrace and the Devil’s trap” (1 Timothy 3:2-7)…….ใช้คำแทนผู้ปกครองดูแลเป็นเอกพจน์
“Deacons (พวกมัคนายก), likewise, should be worthy of respect, not hypocritical, not drinking a lot of wine, not greedy for money, 9 holding the mystery of the faith with a clear conscience. 10 And they (พวกเขา) must also be tested first; if they prove blameless, then they can serve as deacons. 11 Wives (เหล่าภรรยาของมัคนายก หรือ พวกผู้หญิง หรือ หลายท่านตีความว่าเป็นมัคนายกที่เป็นสตรี), too, must be worthy of respect, not slanderers, self-controlled, faithful in everything. 12 Deacons (พวกมัคนายก) must be husbands of one wife, managing their children and their own households competently.13 For those who have served well as deacons (พวกมัคนายก) acquire a good standing for themselves, and great boldness in the faith that is in Christ Jesus” (1 Timothy 3:8-13)……ใช้คำแทนมัคนายกในรูปพหูพจน์ แสดงว่า ในคริสตจักรมีผู้ปกครองดูแล 1 คนได้ (เอกพจน์) และมีมัคนายกหลายคน (พหูพจน์) เป็นบรรทัดฐาน

2. กรณีคริสตจักรใหญ่ขึ้น ก็จะมีเพิ่มจำนวนผู้ปกครองดูแลเข้ามาอีกได้ และจะมีผู้ปกครองดูแลที่เป็นเสมือนหัวหน้าหนึ่งท่าน หลักฐานเรื่องนี้ก็เช่นกรณีของ ทิโมธีที่ถูกสั่งให้ดูแลคริสตจักรเมืองเอเฟซัส (1 ทิโมธี 1:2-3) หรือ ท่านยากอบที่เป็นผู้นำหรือประธานในคริสตจักรเมืองเยรูซาเลม (กิจการ 15:13)

3. ศิษยาภิบาล ในพันธสัญญาใหม่มีการใช้คำที้อ้างถึงตำแหน่งนี้หลายคำ เช่น ผู้ปกครอง (elder…presbuteros), ผู้ปกครองดูแล (overseer….episcopos), ผู้เลี้ยง (shepherd…..poimen), ผู้ประกาศ (preacher…..kerux) และ ครูผู้สอน (teacher…..didaskalos) ซึ่งคำเหล่านี้เป็นคำที่อ้างถึงคนเดียวกันตำแหน่งเดียวกัน คือ หมายถึงศิษยาภิบาล
หน้าที่หลักของศิษยาภิบาล คือ การสอนพระวจนะ การอธิษฐาน การดูแลเรื่องจิตวิญญาณเป็นหลัก ส่วนการงานอื่นๆในคริสตจักรจะเป็นหน้าที่ของเหล่ามัคนายก

4. แสดงว่าสิ่งที่ทำกันในคริสตจักรที่เราเห็นมีหัวหน้าศิษยาภิบาล ศิษยาภิบาล และ เหล่ามัคนายก ในคริสตจักรทั่วๆไปนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามพระคัมภีร์แล้ว


คัดลอกจาก https://www.facebook.com/groups/thaichristianspiritualfood/permalink/1654668521440716/