ความโกรธเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับความเหงา ความเศร้าเสียใจ และความตื่นเต้น จึงไม่เป็นเรื่องแปลกถ้าคุณรู้สึกโกรธ เพราะมันเป็นการตอบสนองตามปกติของมนุษย์ทั่วไป บางครั้งความโกรธอาจจะเกิดจากความกลัวหรือความเจ็บปวด คุณอาจจะโกรธตัวเองที่หาเรื่องยุ่งยากมาสู่ตนเอง หรือโกรธคนรอบข้างที่ทำร้ายคุณ หรือทำให้คุณผิดหวัง โกรธแม้กระทั่งเทพเจ้า ฟ้าดิน ที่ปล่อยให้ความทุกข์ยากเกิดขึ้นกับคุณ
บางครั้งความโกรธก็เป็นเรื่องดี
เชื่อหรือไม่ว่า หากเรามีสติ ความโกรธก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายและบางครั้งอาจจะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ แต่ที่สำคัญที่สุด เราจะต้องไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธนำเราไปสู่ความเกลียดชังหรือการทำร้ายผู้อื่นซึ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก พระคัมภีร์บันทึกว่า แม้พระเยซูผู้เป็นพระเจ้าเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยังรู้จักโกรธเช่นกัน แต่พระองค์ก็ไม่เคยทำบาปแม้สักครั้งเดียว พระองค์เป็นแบบอย่างของคำสอนที่ว่า "จงเกลียดชังความบาป แต่อย่าเกลียดชังคนทำบาป" เรามักโกรธผู้ที่ทำผิดต่อเรา แต่หากเราคิดด้วยใจเป็นธรรมแล้วตัวเราเองก็คงเคยทำผิดต่อผู้อื่นทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจเช่นกัน
ความโกรธเป็นเรื่องร้ายถ้าคุณโกรธแบบไม่เลิกรา
ความโกรธไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ความเคียดแค้นและเกลียดชังมีแต่จะนำความวิบัติมาสู่ชีวิตของเรา เพราะความโกรธมีพลังอำนาจอาจทำลายชีวิตทั้งชีวิตหากเราไม่อาจควบคุมอารมณ์โกรธได้ บางครั้งเราลงโทษตัวเองที่ได้ทำผิดต่อคนอื่น เราจึงโกรธและเกลียดตัวเราเองอย่างไม่รู้ตัว ความโกรธทำให้เราคิดอะไรไม่ออก และถึงจะคิดอะไรได้บ้าง ก็ไม่สามารถคิดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เราจึงยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น
ให้เรามาดูว่าพระเจ้าสอนเราอย่างไรในเรื่องความโกรธ
จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป
อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่ อย่าให้โอกาสแก่มาร
(เอเฟซัส 4:26-27)
ให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ
เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ก่อให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า
(ยากอบ 1:19-20)
บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก
และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
(สุภาษิต 16:32)
และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
(สุภาษิต 16:32)
แล้วการแก้แค้นล่ะ
หลายครั้งที่ความโกรธนำมาซึ่งความแค้นและตามมาด้วยการแก้แค้น หยุดสักนิดคิดสักหน่อยว่า ถ้าเราแก้แค้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรมได้ไหม? ความจริงก็คือ การแก้แค้นไม่เคยช่วยให้ใครรู้สึกดีขึ้น และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เลวร้ายให้ดีขึ้นได้ สิ่งที่เราทุกคนควรทำคือ พยายามให้อภัย และทำใจให้สบายด้วยการไม่ยอมเป็นทาสของอารมณ์โกรธหรือเกลียดชัง ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกต้องการแก้แค้น หากคุณไม่ยอมให้อภัยก็หมายความว่าผู้ที่ทำร้ายคุณยังคงมีอำนาจเหนือคุณอยู่ และจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม