"เชื่อ" ก็รอด หรือ "เชื่อฟังทำความดี" จึงจะรอด

"เชื่อ" ก็รอด หรือ "เชื่อฟังทำความดี" จึงจะรอด


เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom


โจทย์.......

“ผู้ใดที่เชื่อใน (pisteuōn eis) พระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์ แต่ผู้ใดที่ไม่ยอมรับ (ho apeithōn) พระบุตรก็จะไม่ได้เห็นชีวิต เพราะพระพิโรธของพระเจ้ายังอยู่กับเขา" (ยอห์น 3:36) (อมตะธรรมร่วมสมัย)
“คนที่วาง‍ใจใน (pisteuōn eis) พระ‍บุตรก็มีชีวิตนิ‌รันดร์ คนที่ไม่เชื่อ‍ฟัง (ho apeithōn) พระ‍บุตรก็จะไม่‍ได้เห็นชีวิต แต่พระ‍พิโรธของพระ‍เจ้าตกอยู่กับเขา” (ยอห์น 3:36) (สมาคมพระคริสตธรรมไทย)

พระธรรมมัทธิวได้รับการบันทึกในแรกสุดนั้นด้วยภาษากรีก ไม่ใช่ฮีบรูหรืออาราเมค

พระธรรมมัทธิวได้รับการบันทึกในแรกสุดนั้นด้วยภาษากรีก
ไม่ใช่ฮีบรูหรืออาราเมค

เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom


โจทย์.......มีข้อเขียนของผู้นำคริสตจักรในยุคแรกที่มีคนมักอ้างกันดังนี้


“Matthew therefore composed the oracles in the Hebrew language [or, “in a Hebrew style”] and each interpreted them as he was able” = “ดังนั้น ท่านมัทธิว ได้เขียนพระวจนะเหล่านี้ขึ้นมาในภาษาฮีบรู [หรือ “ในรูปแบบลีลาของคนฮีบรู] และแต่ละท่านก็ตีความกันตามที่เข้าใจกัน”


ความรอด ชัดเจนและเรียบง่าย

ความรอด ชัดเจนและเรียบง่าย

เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom

““ไม่ใช่ทุก‍คนที่เรียกเราว่า ‘องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า’ จะได้เข้าในแผ่น‍ดินสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิ‌บัติตามพระ‍ทัยพระ‍บิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้ 22 เมื่อถึงวัน‍นั้นจะมีคนจำ‌นวนมากร้องแก่เราว่า ‘องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า ข้า‍พระ‍องค์ได้เผย‍พระ‍วจนะในพระ‍นามของพระ‍องค์ และได้ขับ‍ผีออกในพระ‍นามของพระ‍องค์ และได้ทำการแห่งฤทธา‌นุ‌ภาพมาก‍มายในพระ‍นามของพระ‍องค์ไม่ใช่หรือ?’ 23 เมื่อนั้นเราจะกล่าวแก่พวก‍เขาว่า ‘เราไม่เคยรู้‍จักพวก‍เจ้าเลย เจ้าผู้ทำความชั่ว จงไปเสียให้พ้น‍หน้าเรา’” (มัทธิว 7:21-23)

ให้เกียรติศิษยาภิบาล

"ศิษยาภิบาล เราต้องนับถือท่าน ให้เกียรติท่าน เคารพท่าน ตามพระคัมภีร์สอน"

เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom

บทนำ..........

1. ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยผิดพลาดในเรื่องนี้เนื่องจากไม่ได้ตรวจสอบพระวจนะอย่างดี เคยหลงไปกับคำสอนที่โจมตีตำแหน่งหน้าที่นี้ ในหลายๆประเด็น

2. แต่เมื่อพิจารณาจากพระวจนะ จะเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น "ครอบครัวฝ่ายวิญญาณ" ก็ไม่ต่างกันกับ "ครอบครัวฝ่ายเนื้อหนังสายเลือด" คือ ต้องมีผู้นำ (สามี หรือ บิดาของลูกๆในครอบครัว) คริสตจักรทั้งหมดหรือสากล (universal churches) มีผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่ คือ พระเยซูคริสต์เจ้า และ สำหรับคริสตจักรท้องถิ่น (local churches) ก็มีผู้เลี้ยงหรือศิษยาภิบาลที่คอยดูแลปกครองคริสตจักรท้องถิ่นในโลกใบนี้ เป็นสิ่งที่พระคัมภีร์ใหม่สอนอย่างชัดเจน

ศิษยาภิบาลในคริสตจักรท้องถิ่น

"ในคริสตจักรท้องถิ่น มีศิษยาภิบาลคนเดี่ยวก็ได้ มีหลายคนก็ได้ และมีหัวหน้าของทีมศิษยาภิบาลด้วย เป็นไปตามพระคัมภีร์"

เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom

บทนำ.......

1. ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับการดูแลจัดการคริสตจักรท้องถิ่นในแต่ละแห่ง มีการกล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งอยู่ 2 อย่าง อันได้แก่ "ผู้ปกครองดูแล" (ผู้ปกครอง ศิษยาภิบาล ผู้เลี้ยง ครูผู้สอน นักเทศน์) และ "เหล่ามัคนายก"

การเลี้ยงดูผู้รับใช้พระเจ้าในฐานะครูผู้สอนพระวจนะ



"การเลี้ยงดูผู้รับใช้พระเจ้าในฐานะครูผู้สอนพระวจนะ"


เขียนโดย Padunkiaet Vejvechaneyom

“ส่วนคนที่รับการสอนพระวจนะ จงแบ่งสิ่งดีทุกอย่างให้แก่คนที่สอนตนเถิด” (กาลาเทีย 6:6)

1. อธิบายคำศัพท์

.....วลี "คนที่รับการสอนพระวจนะ ho katēchoumenos" กับ วลี "คนที่สอน tōi katēchounti" มาจากศัพท์คำเดียวกัน ซึ่งการใช้ภาษาตรงนี้บ่งบอกว่ามีการแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ มี "คนที่สอน" และ  "คนที่รับการสอน" เป็นลักษณะเป็นแบบทางการ (formal) กล่าวคือ มี "ครู" กับ "นักเรียน"

คำเทศนาที่ให้ความหวังกับความมั่งคั่งทางทรัพย์สมบัติ (Prosperity Preaching)




คำเทศนาที่ให้ความหวังกับความมั่งคั่งทางทรัพย์สมบัติ (Prosperity Preaching)


เขียนโดย  Padunkiaet Vejvechaneyom



มีผู้รู้ท่านหนึ่ง (John Piper) ได้เสนอข้อพระคัมภีร์ที่เราสามารถใช้แก้ต่างเกี่ยวกับคำสอนเรื่อง "คำเทศนาที่ให้ความหวังกับความมั่งคั่งทางทรัพย์สมบัติ" (Prosperity Preaching) ไว้ 7 ประการ (ผมเรียบเรียงได้ดัดแปลงและปรับเปลี่ยนบางส่วน) ดังนี้: