สร้างความอดทน


เราจำเป็นต้องใช้ความอดทนตลอดเวลา และจำเป็นต้องใช้มันทุกหนทุกแห่ง
สภษ.16:32 "บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก
และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้"
ชีวิตจริงของบางคนอาจเป็นเช่นนี้...มีชายคนหนึ่ง ขณะที่พบความยากลำบากเขาอธิษฐานว่า "พระเจ้า ขอให้ความอดทนแก่ลูกด้วย"  เขาคิดว่าปัญหาจะน้อยลง แต่กลับแย่ยิ่งกว่าเดิม...เขาจึงอธิษฐานอีกว่า "ขอความอดทนแก่ลูกมากยิ่งขึ้น" และปัญหาก็แย่สุดขีดเลย  ต่อมาเขาจึงตระหนักว่า  จริงๆแล้วพระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานแล้ว  เขากลายเป็นคนที่อดทนมากขึ้นเยอะ ...ขอบคุณพระเจ้าสำหรับปัญหาพวกนั้น
จากการ "ทดสอบ" ความอดทนของเรา  พระเจ้าได้สร้างความอดทน แท้ ขึ้นในเรา ... เราจะเป็นแบบนี้ไหม "ไม่อยากอธิษฐานขอความอดทนละ  เดี๋ยวกลัวว่าพระเจ้าจะตอบ"

ทดสอบความอดทน...เราอดทนมากแค่ไหน...ต่อไปนี้เป็นการทดสอบความอดทน

การขัดจังหวะ...เรา ทุกคนคงจะเคยถูกขัดจังหวะ เสียงโทรศัพท์ดังขณะที่กำลังหลับอยู่...กำลังสระผม ฟอกสบู่ น้ำไม่ไหล...ปวดท้องเข้าห้องน้ำมาก แต่ห้องน้ำมีคนใช้เต็ม...เรามักถูกขัดจังหวะบ่อยๆ (สาวกป้องกันเด็กๆไม่ให้เขามาขัดจังหวะพระเยซู) เรารับมือกับสิ่งที่เข้ามาขัดจังหวะชีวิตของเราอย่างไร ?

ความไม่สะดวกสบาย...เราจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร คนเดี๋ยวนี้ชอบทำอะไรที่รวดเร็ว ไม่ชอบการรอคอยหรือความล่าช้า  เรามีอาหารสำเร็จรูป  กาแฟสำเร็จรูป  โอวันตินเย็น อาหารจานด่วน  เราไม่ชอบการรอคอย...เราอยากได้ข้อมูลเร็วๆ ข่าวที่ทันเหตุการณ์...เมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว เดินทางด้วยเท้า หรือด้วยม้า กว่าจะถึงจุดหมายก็ใช้เวลาหลายวัน เป็นเดือน เป็นปี ...แต่เดี๋ยวนี้ แค่ขึ้นรถไปทำงานไม่ทัน ก็เป็นเรื่องใหญ่...(มาธาเร่งรีบ แต่มารีย์นั่งฟังพระเยซู)เราอยู่ในความรีบเร่งมากตลอดเวลา  วันอาทิตย์นี้มีงานที่เร่งรีบอีกมาก แต่เราต้องไปโบสถ์ ...เราทนได้ไหม?

ความน่ารำคาญ...สิ่ง น่ารำคาญใจได้แก่ รถติด  รอคิวยาว  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะอยู่ในห้องน้ำ  ลืมกุญแจ...สิ่งเหล่านี้บางอย่างเราควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเราต้องหัดรับมือกับมันให้ได้...(โมเสสก็รำคาญ แต่ต้องอดทน เพราะชาวอิสราเอลเอาแต่บ่น) สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารำคาญมากที่สุดก็คือ "คน"...เราต่างเจอคนน่ารำคาญ คนที่ทำให้เราอารมณ์ไม่ดี...ทำอย่างไรล่ะ?...ก็ต้องอดทน

การรอคอย...หลายคนทำอะไรก็ได้ ยกเว้นการรอคอย...เรามักพูดถึงความทดทนของโยบ...โยบเป็นตัวอย่างของคนที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจาก "รอ" ...
สภษ.19:2 "คนที่เร่งเท้าหนักก็มักผิดพลาด"
เราเห็นทั่วไปในสังคมว่า คนที่เร่งรีบมาก อาจหัวใจวายได้ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้อื่น
# # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # # #

จะเป็นคนที่มีความอดทนได้อย่างไร?
พระคัมภีร์เปิดเผยถึงคำตอบ 4 ประการ

1.สร้างมุมมองใหม่...มองสถานการณ์หรือบุคคลนั้นๆที่กำลังสร้างปัญหาให้คุณใหม่  เราจำเป็นต้องมีมุมมองชีวิตใหม่ และมองอะไรๆจากมุมมองของอื่นๆบ้าง  เอาใจเขามาใส่ใจเรา...มองสถานการณ์จากมุมมองของคนอื่น และดูว่าทำไมพวกเขาจึงคิดแบบนั้น ทำไมพวกเขาจึงรู้สึกอย่างนั้น...แต่การมองโดยใช้สายตาของมนุษย์อาจมีสิทธิ์ ผิดพลาดได้ เราจึงต้องมองจากมุมมองของพระเจ้า...มุมมองของพระเจ้าช่วยให้เราเข้าใจความจริงดังต่อไปนี้
๑.เราเป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า...มนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบ และควบคุมทุกสิ่งไม่ได้
๒.คนอื่นๆก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเหมือนกัน จึงไม่น่าประหลาดใจที่คนอื่นมักทำให้เราผิดหวัง
๓.พระเจ้าเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง และพระองค์สามารถใช้สถานการณ์ต่างๆ ทั้งความน่ารำคาญและปัญหาต่างๆเข้ามาในชีวิตของเราเพื่อทำให้พระประสงค์ของ พระองค์สำเร็จต่อชีวิตเรา
สภษ.20:24 "ย่างเท้าของมนุษย์นั้นพระเจ้าทรงเป็นผู้สั่ง
แล้วคนจะเข้าใจทางของเขาเองได้อย่างไร"
Pro.20:24 "A man's steps are from the LORD;
how then can man understand his way?
นี่หมายความว่า เราอาจพบกับความล่าช้าจากพระเจ้า  บางครั้งพระเจ้าจะวางคนน่ารำคาญไว้รอบข้างเรา เพื่อจะสอนอะไรบางอย่างกับเราลองหามุมมองใหม่จากพระเจ้า  ในพระคัมภีร์ทั้งเล่ม พระเจ้าเปรียบเทียบความอดทนกับความเป็นผู้ใหญ่
สภษ.14:29 บุคคลที่โกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก แต่บุคคลที่โมโหเร็วก็ยกย่องความโง่
ความอดทนเป็นเครื่องหมายของความเป็นผู้ใหญ่...เด็กๆส่วนใหญ่อดทนอะไรไม่ได้  เมื่อทารกไม่ได้อะไรที่ต้องการก็จะร้องไห้งอแง  หรือเด็กบางคนไปห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่ได้ของเล่นก็จะงอแงและหาวิธีที่จะให้พ่อแม่ซื้อของเล่นให้

2.หัดมีอารมณ์ขัน...สร้างอารมณ์ขัน  หัดหัวเราะให้กับสถานการณ์  มองหาความสนุกในความผิดหวัง
สภษ.17:22 "ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจที่หมดมานะทำให้กระดูกแห้ง"
คนหัวเราะเก่งอายุยืนยาว  อารมณ์ขันเป็นตัวสลายความเครียด  เป็นยาต้านความวิตกกังวล  เป็นยากล่อมประสาทที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น  การหัวเราะเป็นการทำลายอาการเครียดในชีวิต
พระเ้จ้าก็มีอารมณ์ขัน เคยเห็นหน้าลิงอุรังอุตังมั๊ย  เคยเห็นสุนัขพันธุ์ปั๊กมั๊ย...พระเจ้าเป็นผู้คิดหน้าตาแบบนั้นขึ้นเอง...เราทุกคนจำเป็นที่จะต้องสร้างอารมณ์ขัน "ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี"

3.ให้ความรักเพิ่มพูนขึ้น...1คร.13:4 "ความรักนั้นก็อดทนนาน"...ถ้าขาดความอดทน แสดงว่าความรักยังไม่มากพอ  ถ้าหัวใจของเราเต็มไปด้วยความรัก ก็ไม่มีอะไรที่จะมายั่วยุให้เราโกรธหรือทำให้ใจเราร้อนได้เลย...ตรงกันข้าม เมื่อใจเราเต็มด้วยความโกรธ อะไรก็สามารถยั่วโมโหเราได้ทั้งนั้น...เมื่ออยู่ใต้แรงกดดัน ถ้ามีอะไรไปสะกิด มันก็พร้อมที่จะระเบิด..ฉะนั้น จงให้ความรักในตัวเราเพิ่มมากขึ้น
อฟ.4:2 "จงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน
และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก"
ทำไมเราต้องอดทนกับคนอื่น  ก็เพราะความรักนั่นเอง

4.พึ่งพระเจ้า...เราสามารถสร้างความอดทนได้โดยการพึ่งพระเจ้า ความอดทนไม่ใช่แค่ความตั้งใจของมนุษย์เท่านั้น แต่เป็นผลของพระวิญญาณ...ความอดทนไม่ใช่การสวมหน้ากากเสแสร้ง...ไม่ใช่การอดทนต่อคนหนึ่ง แต่ในใจกำลังเกลียดและหมั่นไส้...ถ้าความอดทนของเรามาจากพระเจ้า หรือถ้ามันเป็นของแท้จากพระวิญญาณ เราจะมีสันติสุขภายในอย่างแท้จริง...ความอดทนเ็ป็นการแสดงความเชื่อของเราว่า "เราวางใจในพระเจ้า เราเชื่อว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าปัญหานี้ พระเจ้ามีแผนการที่ดีต่อชีวิตของเรา"
มุมมองของพระเจ้าช่วยให้เราสามารถพูดได้ว่า "พระเจ้า  พระองค์จะให้ลูกเรียนรู้อะไรในเวลานี้"
ไม่ใช่พูดว่า "พระเจ้า ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้ด้วย"
โนอาห์ต้องรอคอย 100 ปีที่พระเจ้าจะให้น้ำท่วมโลก
อับราฮัม รอจนถึงอายุ 100 ปี จนกว่าจะมีลูก
โมเสสรอคอย 40 ปีในถิ่นธุรกันดาร และใช้เวลาอีก 40 ปี นำชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร
ทุกๆคนในพันธสัญญาเดิมต่างรอคอยพระเมสสิยาห (พระคริสต์)เสด็จมา 
ในยุคพันธสัญญาใหม่ เหล่าสาวกรอคอยพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในห้องชั้นบน
ทุกคนต้องพบกับความอดทนที่ยาวนาน 

พระคัมภีร์เป็นหนังสือแห่งการรอคอย...ทำไมหรือ?...ก็เพราะการรอคอยแสดงถึงความเชื่อ และความเชื่อเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
การรอคอยที่ยากที่สุดคือ รอคอยพระเจ้าในขณะที่คุณกำลังรีบ แต่พระองค์ไม่รีบ...มันยากที่จะอดทนเวลาเรากำลังรอคำตอบอธิษฐาน  รอให้พระเจ้าสำแดงการอัศจรรย์...แต่การรอคอยด้วยความอดทนเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความเชื่อศรัทธา ทั้งยังเป็นสิ่งพิสูจน์ความเชื่อด้วย ว่าเรารอคอยได้นานแค่ไหน

ลาซารัสเป็นเพื่อนสนิทของพระเยซู แต่วันหนึ่งเขาป่วยหนัก มาีรีย์กับมาธาส่งข่าวให้พระเยซู แต่เมื่อพระเยซูได้ยินอย่างนั้น  พระองค์จงใจรออีก2วัน ก่อนเดินทางไปเบธานีที่พวกเขาอยู่ กว่าจะมาถึงลาซารัสก็ตายไปแล้ว ร่างของเขาถูกฝังไว้ในอุโมงค์เรียบร้อย...เหตุการณ์ดูเหมือนว่าพระเยซูมาช้าเกินไป แต่พระเยซูรู้ดีว่ายังไม่สายเกินไป  พระองค์เดินไปที่อุโมงค์ฝังศพและเรียกลาซารัสให้ออกมา...แล้วลาซารัสก็ออกมา - ยังมีชีวิตอยู่

ความจริงก็คือ พระเจ้าไม่เคยสาย  เวลาของพระเจ้านั้นไร้ที่ติ  พระองค์อาจจะไม่ทำตามตารางเวลาของเรา แต่พระองค์ทันเวลาเสมอ  พระองค์ต้องการให้เราไว้วางใจและรอคอยพระองค์...พระเจ้าอยากให้เราวางใจพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด...ความอดทนเป็นหลักฐานของความเชื่อที่เรามีในพระองค์

ทำไมเราจึงควรอดทน  เพราะพระเจ้าทรงอดทน...และเราต้องเลียนแบบพระองค์...
2ปต.3:15 "การที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ทรงอดกลั้นพระทัยไว้นานนั้นเป็นการช่วยเราให้รอด"

อฟ.5:1 เราก็ต้อง "เลียนแบบพระองค์ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก"
เพราะเหตุนี้พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงยังทำงานในชีวิตเรา สร้างความอดทนในเรา นี่เป็นส่วนหนึ่งของคุณลักษณะของพระคริสต์